Death Echo: อาคมอสูร เป็นเกม RPG ในโลกอันกว้างใหญ่และเต็มไปด้วยภยันตรายของ “Death Echo: อาคมอสูร” การพัฒนาความแข็งแกร่งของเหล่าหมอผีในสังกัดของคุณคือภารกิจที่สำคัญที่สุด และหัวใจหลักของการพัฒนานั้นก็คือ “การเพิ่มเลเวล” ซึ่งเป็นมาตรวัดพลังและความสามารถโดยตรงของผู้ใช้อาคม การเดินทางจากหมอผีมือใหม่สู่ปรมาจารย์ผู้ปราบอสูรนั้นต้องอาศัยความเข้าใจในกลไกการเก็บเกี่ยวค่าประสบการณ์ (EXP) อย่างลึกซึ้ง ไม่ใช่เพียงแค่การต่อสู้ไปวันๆ แต่คือการวางแผนอย่างมีกลยุทธ์เพื่อใช้ทุกทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด คู่มือฉบับนี้จะนำทางคุณไปสู่ศาสตร์แห่งการอัปเลเวลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ทีมของคุณแข็งแกร่งพอที่จะเผชิญหน้ากับทุกความท้าทายที่รออยู่เบื้องหน้า

หัวใจแห่งการเติบโต: เข้าใจแก่นแท้ของระบบเลเวลใน Death Echo

blog-image-death-echo-demonic-echo-leveling-guide-TH02

ก่อนที่จะเริ่มเส้นทางการฟาร์ม เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าระบบเลเวลใน “Death Echo: อาคมอสูร” นั้นมีมิติที่ลึกซึ้งกว่าแค่การสะสมค่าประสบการณ์ให้ตัวละคร โดยพื้นฐานแล้ว การเพิ่มเลเวลให้กับหมอผีแต่ละคนจะช่วยเพิ่มค่าสถานะหลักโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นพลังชีวิต พลังโจมตี และพลังป้องกัน ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการต่อสู้ได้อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจะต้องแยกระหว่าง “เลเวลตัวละคร” และ “เลเวลผู้เล่น” (หรือเลเวลบัญชี) ออกจากกัน เลเวลผู้เล่นจะเพิ่มขึ้นเมื่อคุณผ่านด่านในโหมดเนื้อเรื่องหรือทำภารกิจต่างๆ สำเร็จ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของเลเวลผู้เล่นนี้เองที่เป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกระบบและโหมดการเล่นใหม่ๆ ของเกม เช่น ดันเจี้ยนพิเศษ หอคอยท้าทาย หรือแม้กระทั่งระบบซิงโครไนซ์ตัวละคร ดังนั้น การเล่นของคุณจึงควรมีความสมดุลระหว่างการมุ่งเน้นพัฒนาเลเวลให้ตัวละครหลักและการผลักดันเลเวลผู้เล่นไปพร้อมๆ กัน เพื่อเปิดประตูสู่โอกาสในการฟาร์มทรัพยากรที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต

ขุมพลังที่ไม่เคยหลับใหล: การฟาร์ม EXP จากระบบ Idle

blog-image-death-echo-demonic-echo-leveling-guide-TH03

แหล่งค่าประสบการณ์ที่สำคัญและทรงพลังที่สุดใน “Death Echo: อาคมอสูร” นั้นมาจากแก่นของความเป็นเกม Idle นั่นคือระบบการฟาร์มอัตโนมัติหรือ “รางวัล Idle” ที่คุณจะได้รับอย่างต่อเนื่องตราบใดที่เกมยังดำเนินอยู่ แม้กระทั่งตอนที่คุณออฟไลน์ไปแล้วก็ตาม ปริมาณค่าประสบการณ์และทรัพยากรอื่นๆ ที่คุณจะได้รับจากระบบนี้จะขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของคุณในโหมดเนื้อเรื่อง ยิ่งคุณสามารถผ่านด่านไปได้ไกลเท่าไหร่ อัตราการได้รับรางวัลต่อนาทีก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการ “ผลักด่าน” หรือการพยายามเคลียร์สเตจเนื้อเรื่องให้ไปได้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ทุกครั้งที่คุณรู้สึกว่าทีมของคุณแข็งแกร่งขึ้น ควรทุ่มเทให้กับการผ่านด่านต่อไปทันที เพราะนั่นหมายถึงการอัปเกรดเครื่องปั๊ม EXP ถาวรให้กับบัญชีของคุณ การกลับเข้ามาเก็บรางวัล Idle อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นกิจวัตรที่ขาดไม่ได้ และการผลักด่านให้ไกลที่สุดก็คือกลยุทธ์หลักที่จะทำให้คุณเติบโตได้เร็วกว่าใคร

เร่งเครื่องสู่ความแข็งแกร่ง: แหล่ง EXP นอกเหนือจากการฟาร์มปกติ

blog-image-death-echo-demonic-echo-leveling-guide-TH04

แม้ว่ารางวัล Idle จะเป็นแหล่ง EXP หลัก แต่การพึ่งพามันเพียงอย่างเดียวอาจไม่ทันใจนัก โชคดีที่เกมได้มอบหนทางให้คุณสามารถเร่งการเติบโตของตัวละครได้หลากหลายวิธี การผ่านด่านเนื้อเรื่องใหม่ๆ ในแต่ละครั้งไม่เพียงแต่จะเพิ่มอัตราการฟาร์ม Idle แต่ยังมอบรางวัลเป็นค่าประสบการณ์ก้อนโตในทันทีอีกด้วย นอกจากนี้ การทำ “ภารกิจประจำวัน” และ “ภารกิจรายสัปดาห์” ให้สำเร็จลุล่วงก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่คุณจะได้รับไอเทมประเภท “ตำรา EXP” หรือ “น้ำยา EXP” ซึ่งสามารถกดใช้เพื่อมอบค่าประสบการณ์ให้กับตัวละครที่ต้องการได้โดยตรง อย่ามองข้ามการลงเล่นในโหมดพิเศษต่างๆ เช่น ดันเจี้ยนท้าทาย หรือกิจกรรมจำกัดเวลา เพราะโหมดเหล่านี้มักจะมอบตำรา EXP เป็นของรางวัลในปริมาณที่สูงกว่าปกติ การผสมผสานระหว่างการรอรับรางวัล Idle และการออกแรงฟาร์มทรัพยากร EXP ด้วยตนเองอย่างแข็งขัน จะทำให้คุณสามารถอัปเลเวลได้อย่างก้าวกระโดด

เทคนิคบูชาหมอผี: กลยุทธ์การอัปเลเวลด้วยระบบซิงโครไนซ์

blog-image-death-echo-demonic-echo-leveling-guide-TH05

หนึ่งในระบบที่ผู้เล่นใหม่ต้องทำความเข้าใจให้เร็วที่สุดคือระบบ “ซิงโครไนซ์เลเวล” ซึ่งในเกมอาจจะมาในชื่อของ “แท่นบูชา” “ศาลเจ้า” หรือชื่ออื่นใดที่มีกลไกคล้ายกัน ระบบนี้อนุญาตให้คุณทุ่มเททรัพยากรในการอัปเลเวลให้กับหมอผีเพียง 5 คนหลักเท่านั้น จากนั้นคุณสามารถนำหมอผีคนอื่นๆ ที่ไม่ได้อัปเลเวลไปใส่ไว้ในช่องของระบบซิงโครไนซ์ และตัวละครเหล่านั้นจะมีเลเวลเพิ่มขึ้นมาเท่ากับเลเวลของตัวละครที่เลเวลต่ำที่สุดในกลุ่ม 5 คนหลักของคุณโดยอัตโนมัติ เทคนิคนี้ช่วยประหยัดทรัพยากรได้อย่างมหาศาลและมอบความยืดหยุ่นในการจัดทีมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน คุณไม่จำเป็นต้องเสียดายทรัพยากรที่ลงไปกับตัวละครช่วงต้นเกมอีกต่อไป และสามารถทดลองใช้ตัวละครใหม่ๆ ได้ทันทีเพียงแค่นำพวกเขาเข้าสู่ระบบนี้ ดังนั้น กลยุทธ์การอัปเลเวลที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการเลือกหมอผี 5 คนที่แข็งแกร่งที่สุดของคุณ และทุ่มเทค่าประสบการณ์และทรัพยากรทะลวงขีดจำกัดให้กับพวกเขาเพียง 5 คนนี้เท่านั้น

ทะลวงขีดจำกัด: การผ่านพ้นกำแพงเลเวลและวัตถุดิบที่ต้องใช้

blog-image-death-echo-demonic-echo-leveling-guide-TH06

ในการเดินทางของคุณ จะมีช่วงเวลาที่ตัวละครไม่สามารถอัปเลเวลต่อไปได้อีก แม้ว่าคุณจะมีค่าประสบการณ์เหลือเฟือก็ตาม นั่นคือภาวะ “ติดกำแพงเลเวล” ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อตัวละครของคุณไปถึงเลเวลที่กำหนดไว้ เช่น เลเวล 40, 60, 80, 100 และต่อไปเรื่อยๆ การที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดนี้ไปได้ คุณจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบพิเศษที่เรียกว่า “หินทะลวง” หรือไอเทมที่มีชื่อคล้ายกัน ควบคู่ไปกับทองจำนวนหนึ่ง วัตถุดิบเหล่านี้หาได้ยากกว่าค่าประสบการณ์มากนัก โดยมักจะดรอปจากด่านเนื้อเรื่องบทท้ายๆ ดันเจี้ยนพิเศษ หรือได้จากร้านค้าอีเวนต์ การวางแผนเก็บสะสมวัตถุดิบเหล่านี้ล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง พยายามอย่าใช้มันอย่างสิ้นเปลือง และคำนวณให้ดีว่าจะใช้กับตัวละครตัวไหนก่อน เพื่อให้ทีมโดยรวมของคุณยังคงเดินหน้าต่อไปได้ การจัดการกับภาวะกำแพงเลเวลนี้คือบททดสอบที่แท้จริงของการวางแผนทรัพยากรในระยะยาว

ผู้เล่นสามารถเพลิดเพลินกับ Death Echo: อาคมอสูร ได้มากขึ้นบนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นของ PC หรือแล็ปท็อป พร้อมด้วยคีย์บอร์ดและเมาส์ผ่านอีมูเลเตอร์ BlueStacks!