Ragnarok X x Re:Zero เป็นเกม RPG ระบบธาตุถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญที่ช่วยเพิ่มความเสียหาย ป้องกันความเสียหาย และเสริมความได้เปรียบในการต่อสู้ทั้งใน PvE และ PvP การเข้าใจและใช้ประโยชน์จากระบบธาตุได้อย่างถูกต้อง จะทำให้คุณเป็นผู้เล่นที่โดดเด่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นสายโจมตี สายแท็งก์ หรือสายซัพพอร์ตก็ตาม

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับระบบธาตุ ตั้งแต่พื้นฐานของธาตี การได้เปรียบเสียเปรียบของธาตุ วิธีเพิ่มความเสียหายธาตุ การป้องกันจากธาตุ และกลยุทธ์เฉพาะสายอาชีพ

ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับระบบธาตุ

ระบบธาตุในเกม Ragnarok X x Re:Zero ทำงานโดยการกำหนดคุณสมบัติธาตุให้กับสกิล อาวุธ และมอนสเตอร์ ทุกตัวละครหรือมอนสเตอร์จะมีธาตุประจำตัว และธาตุแต่ละประเภทมีความได้เปรียบและเสียเปรียบกันเอง

ในเกมนี้มีธาตุทั้งหมด 10 ประเภท ได้แก่ ธาตุทั่วไป (Neutral), ไฟ (Fire), น้ำ (Water), ลม (Wind), ดิน (Earth), แสง (Holy), ความมืด (Shadow), พิษ (Poison), วิญญาณ (Ghost) และ อันเดด (Undead) โดยที่ธาตุทั่วไปเป็นธาตุพื้นฐานที่มักพบในการโจมตีปกติ ส่วนธาตุอื่น ๆ จะพบในสกิลพิเศษหรือผ่านการเสริมธาตุ

blog-image-ro-next-generation-element-guide-TH02

ธาตุแต่ละชนิดมีทั้งคุณสมบัติในการโจมตีและการป้องกัน เช่น ธาตุไฟจะสร้างความเสียหายได้มากกับมอนสเตอร์ธาตุดิน แต่จะลดลงเมื่อใช้กับมอนสเตอร์ธาตุน้ำ ระบบจะคำนวณความเสียหายโดยใช้ตัวคูณที่ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของธาตุนั้น ๆ

ความได้เปรียบและเสียเปรียบของธาตุ

แต่ละธาตุมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในรูปแบบแพ้ทาง-ชนะทาง เช่น ไฟชนะดิน แต่แพ้น้ำ ลมชนะน้ำ แต่แพ้ดิน แสงมีผลแรงกับอันเดดและความมืด ขณะที่ความมืดชนะทางแสงแต่แพ้วิญญาณ ซึ่งกลไกนี้เปรียบเสมือนเกมเป่ายิ้งฉุบที่คุณต้องใช้กลยุทธ์ในการเลือกธาตุให้เหมาะกับสถานการณ์

blog-image-ro-next-generation-element-guide-TH03

การเปลี่ยนธาตุของอาวุธด้วยไอเทมหรือสกิลที่เหมาะสม จะทำให้ความเสียหายพุ่งขึ้นอย่างมาก บางครั้งอาจเพิ่มได้มากถึง 150% หากเลือกธาตุถูกต้อง ในทางกลับกัน หากเลือกธาตุผิด ความเสียหายอาจลดลงเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่ง

มอนสเตอร์บางตัวมีความต้านทานหรือแพ้ธาตุเฉพาะ ซึ่งคุณควรศึกษาไว้ก่อนเข้าสู้ เช่น การสู้กับบอสที่มีธาตุน้ำ ควรใช้อาวุธหรือสกิลธาตุลมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด

วิธีเพิ่มความเสียหายธาตุให้กับการโจมตี

การเพิ่มธาตุให้กับการโจมตีสามารถทำได้หลายวิธี วิธีที่ง่ายที่สุดคือการใช้ ไอเทมเปลี่ยนธาตุ (Elemental Converter) ซึ่งจะเปลี่ยนธาตุของอาวุธคุณชั่วคราว เช่น เปลี่ยนเป็นธาตุไฟ ลม หรือดิน ใช้ได้ผลดีเมื่อรู้ล่วงหน้าว่าจะสู้กับมอนสเตอร์ธาตุใด

อีกหนึ่งวิธีคือการใส่ การ์ดธาตุ ลงในอาวุธหรืออุปกรณ์ การ์ดเหล่านี้จะเพิ่มความเสียหายธาตุอย่างถาวร เช่น การ์ด Sword Guardian ที่เพิ่มความเสียหายธาตุไฟให้กับอาวุธ

blog-image-ro-next-generation-element-guide-TH04

วิธีขั้นสูงกว่าคือการใช้ ระบบเสริมพลัง (Enchantments) หรือ รูน (Runes) ที่สามารถเพิ่มความสามารถด้านธาตุแบบถาวรในอาวุธหรือสกิล แม้จะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็คุ้มค่าหากคุณต้องการสร้างตัวละครที่แข็งแกร่งในระยะยาว

บางอาชีพมีสกิลที่มีธาตุในตัว เช่น สาย Mage มีสกิล Fire Bolt, Cold Bolt และ Lightning Bolt ซึ่งเป็นธาตุไฟ น้ำ และลมตามลำดับ ส่วน Priest มีสกิลธาตุแสง เช่น Magnus Exorcismus ที่ใช้ได้ผลดีมากกับมอนสเตอร์ประเภทอันเดด

เกราะธาตุและการต้านทาน

นอกจากการโจมตีจะมีธาตุแล้ว ชุดเกราะก็สามารถตั้งค่าธาตุได้เช่นกัน โดยการใส่การ์ดหรือใช้อุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติธาตุเฉพาะ เช่น การ์ด Pasana ที่เปลี่ยนเกราะเป็นธาตุไฟ ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายจากธาตุไฟ แต่จะทำให้โดนธาตุน้ำแรงขึ้น

ใน PvP หากคุณรู้ว่าคู่ต่อสู้ใช้สกิลธาตุแสงเป็นหลัก การใส่เกราะธาตุความมืดก็จะช่วยลดความเสียหายได้มาก แต่ถ้าคู่ต่อสู้เปลี่ยนมาใช้ธาตุวิญญาณแทน คุณก็จะเสียเปรียบทันที จึงต้องมีการวางแผนและปรับเปลี่ยนให้ยืดหยุ่น

blog-image-ro-next-generation-element-guide-TH05

การเพิ่มค่าต้านทานธาตุสามารถทำได้หลายทาง เช่น การใช้อุปกรณ์เสริม อาหารบัฟ หรือเทคโนโลยีกิลด์ ซึ่งจะเสริมเกราะของคุณให้แข็งแกร่งขึ้นในสถานการณ์ที่ต้องรับมือกับบอสหรือดาเมจธาตุสูง

กลยุทธ์ธาตุที่เหมาะกับแต่ละอาชีพ

แต่ละอาชีพมีวิธีใช้ธาตุที่แตกต่างกัน สาย Mage เป็นอาชีพที่พึ่งพาธาตุมากที่สุด เนื่องจากสกิลส่วนใหญ่มีคุณสมบัติธาตุชัดเจน การเลือกสกิลให้ตรงกับจุดอ่อนของศัตรูจึงเป็นกุญแจสำคัญ

Assassin และ Archer ใช้ไอเทมเปลี่ยนธาตุเพื่อปรับเปลี่ยนความเสียหายให้เหมาะสม โดยเฉพาะเวลาฟาร์มหรือไล่ล่าบอส พวกเขาจำเป็นต้องมีสต็อกไอเทมธาตุไว้หลากหลาย

Knight และ Crusader มักเน้นไปที่การป้องกันธาตุมากกว่าการโจมตี เช่น การใส่เกราะธาตุหรือเพิ่มค่าต้านทานเพื่อรับมือกับดาเมจจากศัตรู ส่วน Paladin อาจเน้นไปที่ธาตุแสงเพื่อป้องกันในดันเจี้ยนที่มีมอนสเตอร์ธาตุมืดหรืออันเดด

อาชีพซัพพอร์ตอย่าง Priest และ Bard สามารถใช้ธาตุเพื่อช่วยทีม เช่น บัฟต้านธาตุหรือการฮีลให้เหมาะกับสถานการณ์ หากเข้าใจว่าศัตรูใช้ธาตุใด ก็สามารถวางแผนบัฟได้ตรงจุดมากขึ้น

การใช้ธาตุใน PvP

ใน PvP ระบบธาตุมีความซับซ้อนมากขึ้น เพราะคุณไม่สามารถรู้แน่ชัดว่าคู่ต่อสู้ใช้ธาตุอะไร ผู้เล่น PvP มักเตรียมชุดเกราะที่มีธาตุหลากหลายไว้เปลี่ยนใช้ตามสถานการณ์ เช่น ใส่เกราะธาตุวิญญาณเพื่อต้านดาเมจปกติ หรือใส่เกราะธาตุแสงเพื่อต้านเวทมืด

กลยุทธ์ธาตุใน PvP ต้องเน้นความยืดหยุ่นมากกว่าการโฟกัสไปที่ธาตุเดียว บางครั้งผู้เล่นขั้นสูงจะมีอุปกรณ์หลายชุดเพื่อใช้สลับทันทีระหว่างต่อสู้

ผลข้างเคียงจากธาตุก็มีผลใน PvP เช่น การถูกแช่แข็งจากธาตุน้ำ ติดไฟจากธาตุไฟ หรือโดนคำสาปจากธาตุมืด ดังนั้นการใส่การ์ดป้องกันสถานะ และอุปกรณ์ที่ลดโอกาสติดสถานะจึงสำคัญมาก

สรุป

ระบบธาตุใน Ragnarok X x Re:Zero เป็นหนึ่งในระบบที่มีความลึกและทรงพลังที่สุด การเข้าใจกลไกของธาตุ ชนิดของศัตรู และกลยุทธ์การใช้ธาตุให้เหมาะสม จะช่วยให้คุณเพิ่มดาเมจ ลดความเสียหาย และเอาชนะศัตรูได้อย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นการล่าบอส ฟาร์มมอน หรือดวลในสนาม PvP หากคุณต้องการเป็นนักผจญภัยระดับสูง อย่ามองข้ามระบบธาตุ และหมั่นฝึกใช้ให้คล่องอยู่เสมอ

ขอแนะนำอย่างยิ่งให้คุณเล่น Ragnarok X x Re:Zero บนหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นของ PC ด้วยอีมูเลเตอร์ BlueStacks โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่หมดและเกมเพลย์ที่ราบรื่น